PDCA : วงจรการบริหารคุณภาพ
1. ประวัติความเป็นมา
เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกโดยนักสถิติ ชื่อ Walter Shewhart ซึ่งได้พัฒนาจากการควบคุมกระบวนการเชิงสถิติที่
Bell Laboratories ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อทศวรรษ 1930 เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “วงจร Shewhart” และเมื่อทศวรรษ 1950
ได้มีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางโดย W.Edwards Deming ปรมาจารย์ทางด้านการบริหารคุณภาพ หลายคนจึงเรียกวงจรนี้ว่า “วงจร Deming” เริ่มแรก Deming ได้เน้นถึงความสัมพันธ์ 4 ฝ่าย ในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพ และความพึงพอใจ ของลูกค้า ได้แก่ ฝ่ายออกแบบ ฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย และฝ่ายวิจัยความสัมพันธ์ของทั้ง 4 ฝ่ายจะต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้าตามความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยให้ถือว่าคุณภาพต้องมาก่อนสิ่งใด ต่อมาแนวคิดเกี่ยวกับวงจร Deming ได้ถูกดัดแปลงให้เข้ากับวงจรการบริหาร ประกอบด้วย การวางแผน (P) การปฏิบัติ (D) การตรวจสอบ (C) และการดำเนินงานให้เหมาะสม (A)
2. องค์ประกอบของ PDCA
3.
เครื่องนี้ใช้เพื่ออะไร
สำหรับการบริหารคุณภาพของการดำเนินธุรกิจทั้งวงจร
ซึ่งประกอบไปด้วย ด้านการวางแผน การปฏิบัติ การตรวจสอบ
การดำเนินงานให้เหมาะสม เพื่อปรับปรุงการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น4. ข้อดีและข้อเสีย
1. การวางแผนงานก่อนการปฏิบัติงาน จะทำให้เกิดความพร้อม เมื่อได้ปฏิบัติงานจริง
2. ทำให้ทราบขั้นตอน วิธีการ และสามารถเตรียมงานล่วงหน้าหรือทราบอุปสรรค์ล่วงหน้า ทำให้งานเกิดความราบรื่น เรียบร้อยนำไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้
3. การตรวจสอบให้ได้ผลที่เที่ยงตรงเชื่อถือได้ ประกอบด้วย
3.1 ตรวจสอบจากเป้าหมายที่กำหนด
3.2 มีเครื่องมือที่เชื่อถือได้
3.3 มีเกณฑ์การตรวจสอบที่ชัดเจน
3.4 มีกำหนดเวลาการตรวจสอบที่แน่นอน
3.5 บุคลากรที่ทำการตรวจสอบต้องได้รับการยอมรับจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
4. การปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนใด เมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขคุณภาพก็จะเกิดขึ้น
5. ขั้นตอนทั้ง 4 ขั้นตอนของวงจร PDCA ประกอบด้วย
1. การวางแผน (Planing) จะต้องครอบคลุมถึงการกำหนดกรอบหัวข้อที่ต้องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง พิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลใดบ้าง โดยมีการระบุวิธีการเก็บข้อมูลให้ชัดเจน วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้ และกำหนดทางเลือกในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
2. ขั้นตอนการปฏิบัติ
(Do) เป็นขั้นตอนของการลงมือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตามทางเลือกที่ได้1. การวางแผน (Planing) จะต้องครอบคลุมถึงการกำหนดกรอบหัวข้อที่ต้องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง พิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลใดบ้าง โดยมีการระบุวิธีการเก็บข้อมูลให้ชัดเจน วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้ และกำหนดทางเลือกในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
กำหนดไว้ในขั้นตอนการวางแผน ในระหว่างการปฏิบัติต้องตรวจสอบด้วยว่าได้ดำเนินไปในทิศทางที่ตั้งใจหรือไม่ พร้อมกับการประสานงานหรือ สื่อสารให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบ
3. ขั้นการตรวจสอบ (Check) เป็นขั้นตอนของ การประเมินผลที่ได้รับจากการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ในแต่ละขั้นตอน สิ่งสำคัญต้องรู้ว่าจะตรวจสอบอะไรบ้าง บ่อยครั้งแค่ไหน ข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบจะเป็นประโยชน์สำหรับขั้นตอนต่อไป ผลที่เกิดขึ้น วิธีการปฏิบัติใดมีประสิทธิผลที่สุด ก็จะจัดให้เป็นมาตรฐาน หากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ก็ต้องหา
4. ขั้นตอนดำเนินงานที่เหมาะสม(Action) โดยการมองหาวิธีการปฏิบัติใหม่หรือใช้ความพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะพิจารณาผลที่ได้จากการตรวจสอบ ซึ่งมีอยู่ 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 ผลที่เกิดขึ้นเป็นไปตามแผนที่วางไว้
กรณีที่ 2 ผลที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ - มองหาทางเลือกใหม่ที่น่าจะเป็นไปได้
- ใช้ความพยายามให้มากขึ้นกว่าเดิม
- ขอความช่วยเหลือจากผู้รู้
- เปลี่ยนเป้าหมายใหม่
6. มีใครนำเครื่องมือนี้มาใช้
สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกเรื่อง นับตั้งแต่กิจกรรมส่วนตัว
เช่นการปรุงอาหาร
การเดินทางไปทำงานในแต่ละวัน การตั้งเป้าหมายชีวิต การดำเนินงานในระดับบริษัท จนกระทั่งระดับสถาบันการศึกษา
หรือนำมาใช้ในระบบประกันคุณภาพการศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น